สำหรับคำแนะนำแรก
สำหรับผู้ที่มีรถโดนน้ำท่วมมา หลังจากน้ำลด สั่งแรกที่ต้องตระหนักคือ
ห้ามทำการสตาร์ทเครื่องรถยนต์ของท่านเด็ดขาด หรือบิดกุญแจแม้แต่คลิกเดียว
เพราะอาจจะทำให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของรถ เกิดการช็อต
ลัดวงจรเสียหายได้
คำแนะนำถัดมา คือ เปิดฝากระโปรงรถ
จากนั้นสำหรับท่านใด ที่ก่อนโดนน้ำท่วมไม่ได้มีการถอดแบตเตอรี่
ก็ให้ทำการปลดขั้วแบตเตอรี่ทันที โดยจะปลดขั้วใดขั้วหนึ่ง
หรือปลดทั้งสองขั้วก็ได้
คำแนะนำถัดมา คือ ส่งรถสู่มือช่างผู้ชำนาญเพื่อรับการซ่อม
(ใช้บริการรถยก) หรือ สำหรับท่านใดที่มั่นใจ และมีทักษะทางด้านช่าง
ก็ให้ปลดขั้วไฟฟ้าต่างๆ โดยเฉพาะขั้วสายไฟภายในห้องเครื่อง
ทั้งตัวอีซียูและ รีเรย์ต่างๆ จากนั้นก็ฉีดสเปรย์ไล่ความชื้น
พร้อมเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ ... ถ้าใครไม่มั่นใจ ส่งศูนย์ซ่อมดีกว่านะครับ
สำหรับการซ่อม
เรามาลองประเมินความเสียหายกันครับ ว่าจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการซ่อมในเรื่องใดบ้าง
1. กรณี “เครื่องยนต์”
จะเกิดความเสียหายในส่วนของระบบดูดอากาศ สิ่งแรกก็คือตัวกรองอากาศ
ซึ่งต้องมีการถอดชิ้นส่วนออกมาทำความสะอาด แต่ถ้าอากาศหนัก
อย่างเจอน้ำเข้าเครื่อง ก็ต้องมีการถอดประกอบเครื่องยนต์
ถอดทำความสะอาด รวมถึงการเปลี่ยน น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์
น้ำมันเฟืองท้าย อาจจะรวมถึงน้ำยาหม้อน้ำด้วย เพื่อความไม่ประมาท
เพราะน้ำอาจจะซึมเข้าไปทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ เกิดความเสียหายได้
2. กรณี “ช่วงล่าง”
น้ำท่วมสามารถสร้างความเสียหายให้ระบบช่วงล่างได้เช่นกัน
โดยเฉพาะในส่วนของลูกยางต่างๆ ซึ่งมือโดนความชื้นนานๆ
ก็จะฝืดได้ รถที่โดนน้ำท่วมนานๆ ต้องอัดจารบีใหม่ โดยเฉพาะการอัดจาระบีเพลาขับ
และลูกปืนล้อทั้ง 4 ล้อ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบและทำความสะอาดระบบเบรก
และเปลี่ยนน้ำมันเบรกด้วย |